| Home |
ลามีน ยามาล ถูกเหยียดเชื้อชาติ กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกฟุตบอล หลังผลสำรวจจากองค์กรตรวจสอบความเกลียดชังออนไลน์ในลาลีกาเปิดเผยว่า นักเตะดาวรุ่งวัย 16 ปีจากบาร์เซโลน่า คือผู้ที่ได้รับข้อความเหยียดผิวและชาติพันธุ์ทางโซเชียลมากที่สุดในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้อายุยังไม่แตะ 18 ปี แต่เขากลับต้องแบกรับแรงกดดันที่รุนแรงเกินวัย sahawin
รายงานฉบับล่าสุดจาก Observatorio Español contra el Racismo เผยว่า ลามีน ยามาล ถูกโจมตีด้วยคำพูดเหยียดผิวมากกว่านักเตะคนอื่นในลีก รวมทั้งดาวดังอย่างวินิซิอุส จูเนียร์ จากเรอัล มาดริด โดยมีข้อความเชิงลบถูกระบุว่าเป็น Hate Speech มากกว่า 4,000 ข้อความในช่วงเพียงครึ่งฤดูกาลแรก
ลามีน ยามาล เป็นนักเตะลูกครึ่งสเปน–กินี วัยเพียง 16 ปี ที่แจ้งเกิดเต็มตัวในฤดูกาล 2023–2024 กับบาร์เซโลน่า ด้วยฝีเท้าโดดเด่นทั้งความเร็ว เทคนิค และความเยือกเย็นเกินวัย จนถูกเรียกว่า “วันเดอร์คิดหมายเลขหนึ่งของสเปน” และเป็นความหวังใหม่ของทั้งทีมชาติและสโมสร
แม้สเปนจะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยนักเตะหลากเชื้อชาติ แต่การเหยียดยังคงมีอยู่ในสนามและโลกออนไลน์ ลามีนที่มีพื้นเพจากแอฟริกา จึงตกเป็นเป้าในช่วงที่เขากำลังพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากกลุ่มแฟนบอลหัวรุนแรงที่ใช้โซเชียลโจมตีแทนการวิจารณ์เชิงกีฬา
สโมสรบาร์เซโลน่าไม่อยู่เฉย หลังเห็นการโจมตีทางออนไลน์ที่ถาโถมเข้าหานักเตะอายุน้อยที่สุดในทีม โดยได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับ LaLiga และยื่นเรื่องให้ Cybercrime Spain ตรวจสอบต้นตอของบัญชีผู้ใช้งานที่เผยแพร่ข้อความแสดงความเกลียดชัง
หลังข่าวถูกเปิดเผย แฟนบอลในสเปนและต่างประเทศต่างออกมาโพสต์สนับสนุนยามาล พร้อมแฮชแท็ก #StopRacism และ #JusticeForYamal จนติดเทรนด์ Twitter และ TikTok ในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง สะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป
El País และ Marca สองสื่อใหญ่ในสเปนเปิดเผยว่า กลุ่มข้อความเหยียดส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มแฟนบอลสายหัวรุนแรงทางการเมือง และมีพฤติกรรมปั่นแฮชแท็กเพื่อให้เกิดการตอบโต้ในหมู่แฟนบอลฝ่ายตรงข้าม
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการกีฬาเตือนว่า เด็กอายุ 16 ปีอย่างลามีน แม้จะมีพรสวรรค์สูง แต่หากต้องเผชิญกับ Hate Speech อย่างต่อเนื่อง อาจกระทบต่อสภาพจิตใจในระยะยาว และบั่นทอนความมั่นใจจนไม่สามารถพัฒนาไปถึงระดับสูงสุดได้
เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย ลาลีกาเตรียมร่วมมือกับรัฐบาลสเปนในการจัดตั้ง “Cyber Racism Taskforce” ที่จะตรวจสอบพฤติกรรมเหยียดทางออนไลน์ และเอาผิดกับผู้ใช้งานที่กระทำผิดซ้ำซาก พร้อมเรียกผู้บริหารแพลตฟอร์มโซเชียลมาหารือมาตรการคุมเข้ม
แม้จะเผชิญกระแสลบมากมาย แต่ลามีน ยามาลยังเลือกตอบอย่างสุขุม โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อสเปนว่า “ผมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมไม่ให้ค่ากับความเกลียด ผมขอโฟกัสแค่ในสนาม และทำให้ดีที่สุดเพื่อบาร์ซ่า” คำพูดสั้น ๆ แต่สะเทือนใจแฟนบอลทั้งโลก
เหตุการณ์ที่ ลามีน ยามาล ถูกเหยียดเชื้อชาติ สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของวงการฟุตบอลยุโรปที่ยังไม่เปลี่ยนไป แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาแค่ไหน การยุติ Hate Speech ต้องอาศัยทั้งกฎหมาย แพลตฟอร์ม และพลังของแฟนบอลร่วมกันปกป้องนักเตะเยาวชนจากความรุนแรงที่ไม่มีในเกมกีฬา ( sahawin )